Vitalik คือใคร หรือเขาคือบุคคลผู้เปลี่ยนโลก

Vitalik คือใคร หรือเขาคือบุคคลผู้เปลี่ยนโลก

Vitalik ตอนนี้เขาอายุ 23 ปี เมื่อ 2 ปีที่แล้วเขาได้สร้างบางอย่างขึ้นมาในโลกดิจิตอล และตอนนี้สิ่งที่เขาได้สร้างมีมูลค่าเกือบ 1 ล้านล้านบาท Vitalik คือใคร และได้สร้างอะไร?

หากเรานึกถึงผู้ที่ปฏิวัติวงการฟินเทคของโลกนอกจากนาย Satoshi Nakamoto ผู้สร้างเหรียญ Bitcoin แล้ว อีกคนหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ก็คือนาย Vitalik Buterin ผู้สร้างระบบ Ethereum ที่พัฒนาต่อยอดมาจากระบบ Bitcoin ของนาย Satoshi นั่นเอง

นาย Vitalik Buterin เป็นลูกชายของนาย Dmitry Buterin นักวิทยาศาสตร์ด้านคอมพิวเตอร์ กับนาง Maia Buterin เกิดเมื่อวันที่ 31 มกราคม ปี 1994 ในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย จนกระทั่งเมื่ออายุได้ 6 ขวบ ได้ย้ายตามครอบครัวไปอยู่ที่ประเทศแคนาดา
โดยในช่วงระหว่างเรียนอยู่ที่นี่ นาย Vitalik ได้ถูกประเมินว่าเป็นหนึ่งในเด็กผู้มีพรสวรรค์ในด้านวิชาคณิตศาสตร์และการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งเขาเคยได้รับเหรียญทองแดงในการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการในสาขานี้ด้วย ซึ่งในปัจจุบันเขาได้ย้ายมาอาศัยอยู่ในประเทศสิงคโปร์แล้ว

จุดเริ่มต้นของการเข้าสู่วงการเงินดิจิตอลของนาย Vitalik เริ่มต้นในปี 2012 จากการได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมนักพัฒนาเหรียญ Bitcoin ซึ่งในตอนนั้นเขาอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น และเมื่อนาย Vitalik ได้ลองทำไปได้ระยะหนึ่ง เขากลับพบว่าตัวเหรียญ Bitcoin และระบบ Blockchain นั้นยังมีข้อจำกัดอยู่หลายอย่าง เขาจึงตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยในปี 2014 เพื่อที่จะพัฒนาระบบเงินดิจิตอลใหม่ที่มีชื่อว่า “Ethereum” หรือสกุลเงิน ETH ขึ้นมาอย่างเต็มรูปแบบ เหรียญ ETH ได้เปิดตัวสู่ตลาดครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ปี 2015 โดยคาดการณ์กันว่ามีเหรียญทั้งหมดประมาณ 103,862,556 เหรียญ ซึ่งปัจจุบันได้ถูกขุดไปแล้ว 94,812,602 เหรียญ

โดยเหรียญ ETH มีราคาและมูลค่าตลาดในแต่ละปี ดังนี้ (คิดจากช่วงเดือนกันยายน ของแต่ละปี)
ปี 2015 ราคาเหรียญละ 39 บาท มีมูลค่าตลาดที่ 2,922 ล้านบาท
ปี 2016 ราคาเหรียญละ 403 บาท มีมูลค่าตลาดที่ 32,376 ล้านบาท
ปี 2017 ราคาเหรียญละ 9,751 บาท มีมูลค่าตลาดที่ 927,053 ล้านบาท

ซึ่งถ้านับเฉพาะมูลค่าเหรียญ ETH ที่เขาถืออยู่ตอนนี้ นาย Vitalik วัย 23 ปี มีทรัพย์สินอยู่ราว 3,981 ล้านบาท ในบัญชี Ethereum 2 บัญชี ดังต่อไปนี้

บัญชีในแอดเดรส 0x1Db3439a222C519ab44bb1144fC28167b4Fa6EE6 มีเหรียญ ETH อยู่ 11,138.15 เหรียญ มูลค่า 108 ล้านบาท

บัญชีในแอดเดรส 0xAb5801a7D398351b8bE11C439e05C5B3259aeC9B มีเหรียญ ETH อยู่ 405,001.17 เหรียญ มูลค่า 3,873 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หากเรามองลึกลงไปมากกว่าราคาเหรียญที่เติบโตในแต่ละปี เราจะพบว่า ในเทคโนโลยี Ethereum นั้นมีสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจ คือ การเพิ่มชุดคำสั่ง Smart Contracts เข้าไปในระบบ แล้ว Smart Contracts ที่ว่านี้คืออะไร?

ความหมายของ Smart Contracts นั้นเปรียบเสมือนเป็นการเอาข้อมูลทางการเงิน สัญญาทางธุรกิจ หรือข้อมูลอะไรก็ได้ มาเขียนลงในโปรแกรมทำเป็นภาษาคอมพิวเตอร์ แล้วให้มันประมวลผลยึดกับระบบ blockchain ของ Ethereum โดยระบบการทำงานของ Smart Contracts สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้กับข้อมูลที่มีอยู่แทบทุกอย่างบนโลกใบนี้ ซึ่งในตัวระบบนี้ได้ทำลายขีดจำกัดระบบ Blockchain ของ Bitcoin ที่จะเน้นเพียงแค่การทำธุรกรรมทางเงินเป็นส่วนใหญ่เท่านั้น หมายความว่า Ethereum เปิดโอกาสให้ใครก็ได้มาใช้ platform นี้เราสามารถออกเหรียญดิจิตอลที่มีจำกัดของเราเองได้ ส่งเหรียญดิจิตอลนี้ให้เพื่อน ให้พ่อแม่ได้ ซึ่งเราคงเคยได้ยินคำว่า ICO ในช่วงที่ผ่านมา และ ลงทุนแมนก็มีเขียนเรื่องนี้ในตอน OmiseGo ไปแล้วหากเรานำเทคโนโลยีนี้มาประยุกต์ใช้ภายในองค์กร หรือ หน่วยงานรัฐ มันจะสามารถช่วยอำนวยความสะดวกและลดขั้นตอนในการทำงานให้กับเราไปได้มาก เนื่องจาก concept ของ platform นี้ คือ decentralized ไม่มีคนกลางคอยควบคุม ทุกอย่างจึงโปร่งใส ตรวจสอบได้

ตัวอย่างเช่น
ปัญหาที่มีมาแสนนานของการเลือกตั้ง ไทย คือ การโกงการเลือกตั้ง เปลี่ยนหีบเลือกตั้ง การนับคะแนนการเลือกตั้งไม่โปร่งใส เรื่องนี้สามารถแก้ง่ายๆด้วย blockchain ของ Etheruem อย่างไรก็ตาม เรื่องที่ฮอตที่สุดของ Ethereum ตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้นเหรียญดิจิตอลที่มีมูลค่าเพิ่มสูงมากอยู่ดี ไม่น่าเชื่อว่าเด็กหนุ่มอายุ 23 ปี จะสามารถเสกสิ่งสมมติในโลกเสมือนได้มีมูลค่ามากถึง 1 ล้านล้านบาท ได้ภายใน 2 ปี

แต่เมื่อย้อนกลับไปดูแล้ว ทั้ง facebook google ตอนนี้ก็เป็นแพลตฟอร์มในโลกเสมือนเช่นกัน สรุปแล้วเราอาจจะอยู่ในโลกเสมือนไปแล้วบางส่วน โดยที่เราไม่รู้ตัว ถ้าถามว่า เด็กรุ่นใหม่ที่เรียนหนังสืออยู่ตอนนี้ ควรมี skill อะไร ประเทศอเมริกา จีน รัสเซีย เกาหลีใต้ อิสราเอล คงตอบเหมือนกันว่า วิชาการเขียนโปรแกรม..เพราะคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ใครครองเทคโนโลยีนี้ ประเทศนั้นจะเป็นมหาอำนาจของโลกในอนาคต..

Scroll to Top